เจาะสนามเลือกตั้งเมืองย่าโม 4 พรรคการเมือง แบ่งเค้กที่นั่ง ส.ส. 16 เขตเลือกตั้ง

0
70
สมัคร mm88

เจาะสนามเลือกตั้งเมืองย่าโม 4 พรรคการเมือง เพื่อไทย ชาติพัฒนากล้า พลังประชารัฐ และภูมิใจไทย แบ่งเค้กที่นั่ง ส.ส. 16 เขตเลือกตั้ง

วันที่ 29 มีนาคม 2566 สนามเลือกตั้ง ส.ส. จังหวัดนครราชสีมา เป็นที่หมายปองของพรรคการเมืองหลายพรรคเพราะมีเก้าอี้ ส.ส.ถึง 16 ที่นั่ง โดยการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม 2566 นี้ พรรคการเมืองใหญ่ต่างก็เลือก จ.นครราชสีมา เป็นเวทีแรกเพื่อเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. โดยขนเอาขุนพลฝีปากกล้ามาปราศรัยถล่มคู่แข่งคึกคัก มาถึงวันนี้ทุกพรรคการเมืองก็ได้คัดเลือกและสรุปตัวผู้สมัครที่เห็นว่าเหมาะสมกับ 16 เขตเลือกตั้งเกือบทุกพรรคแล้ว โดยคอการเมืองของโคราชได้วิเคราะห์และสังเคราะห์ตรงกันว่าเขตเลือกตั้ง 16 เขตจะมีผู้สมัครที่จะมีโอกาสได้รับการเลือกตั้งดังนี้

เขตเลือกตั้งที่ 1 ประกอบด้วย อำเภอเมืองนครราชสีมา เฉพาะตำบลในเมือง ตำบลโพธิ์กลาง และตำบลหนองไผ่ล้อม ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 161,693 คน พรรคเพื่อไทย ส่ง ร.ต.อ.สุปชัย อินทรักษา อดีตรองนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมาและอดีตนายก เทศมนตรีตำบลปรุใหญ่ อ.เมืองนครราชสีมา ลงชิงเก้าอี้ โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงโคราชและบรรดาผู้สนับสนุนในชุมชนต่างในเขตเมืองนครราชสีมาเป็นฐานเสียงหลัก ขณะที่พรรคชาติพัฒนากล้าส่ง นายเทวัญ ลิปตพัลลภ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้า น้องชายนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เพื่อหวังทวงเก้าอี้ในเขตนี้คืน โดยฐานเสียงหลักจะอยู่ในเขตชุมชน โดยมี สมาชิกสภาเทศบาลและสมาชิกสภา อบจ.ในเขตเทศบาลนครนครโคราชเป็นแรงหนุน

ส่วนพรรคก้าวไกล ส่งนายฉัตร สุภัทรวณิช นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ซึ่งมีฐานเสียงหลักเป็นกลุ่มนักธุรกิจ คหบดีและกลุ่มเยาวชน นักศึกษาที่ชื่นชอบพรรคก้าวไกลเป็นฐานเสียงที่สำคัญ ด้านแชมป์เก่า พรรคพลังประชารัฐ ส่งนายเกษม ศุภรานนท์ เจ้าของเก้าอี้ ส.ส.เขตนี้มาป้องกันแชมป์ โดยมีฐานเสียงหลักเป็นข้าราชการครู ทหาร และชุมชนรอบค่ายทหาร ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติ ของลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ส่งนายอนันต์ อาบสุวรรณ นักธุรกิจด้านอาหารและการขนส่ง ลงชิงชัย โดยมีฐานเสียงหลักเป็น พ่อค้า คหบดีในพื้น คอการเมืองโคราช ฟันธงว่าสนามเลือกตั้งเขต 1 โคราช เป็นศึกช้างชนช้างโดยเฉพาะนายเทวัญ ลิปตพัลลภ น้องชายนายสุวัจน์ฯ ที่ยึดเอาเขตนี้เป็นเมืองหลวงของพรรคชาติพัฒนากล้าสุดท้ายน่าจะเบียดกับ ร.ต.อ.สุปชัยฯ จากพรรคเพื่อไทยและนายฉัตรฯจากพรรคก้าวไกลแบบหายใจรดต้นคอ แต่อย่างไรก็ยังประมาทแชมป์เก่านายเกษม ศุภรานนท์ จากพลังประชารัฐไม่ได้เพราะกระสุนดินดำเสบียงจากนายส่งมาไม่อั้น

เขตเลือกตั้งที่ 2 อำเภอเมืองนครราชสีมา เฉพาะ ต.โคกสูง ต.บ้านโพธิ์ ต.ตลาด ต.หนองไข่น้ำ ต.บ้านเกาะ ต.พะเนา ต.มะเริง ต.หนองบัวศาลา ต.หนองระเวียง ต.หัวทะเล และ ต.จอหอ ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง จำนวน 167,149 คน

พรรคเพื่อไทย ส่งนายสมโภชน์ ปราสาทไทย แกนนำคนเสื้อแดงอำเภอเมืองโคราชหนีจากเขต 1 ไปลงชิงชัยเก้าอี้ โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงใน 11 ตำบลของ อ.เมืองโคราชเป็นฐานเสียงหลัก ขณะที่พรรคชาติพัฒนากล้า ส่งนายวัชรพล โตมรศักดิ์ รองหัวหน้าพรรคฯ และเป็นเเชมป์เก่าครองเก้าอี้เขตนี้มาแล้ว 5 สมัย ลงป้องกันแชมป์ โดยมีนักการเมืองท้องถิ่น ท้องที่ กลุ่มสตรีแม่บ้าน อสม.และคนรักกีฬาเป็นฐานเสียงหลัก ส่วนพรรคพลังประชารัฐ ส่งนายประพิศ นวมโคกสูง นักเคลื่อนไหวทางการเมืองลงสู้ศึก โดยมีฐานเสียงหลักเป็นข้าราชการครู และผู้นำชุมชนบางส่วน ซึ่งเขตนี้หลายฝ่ายฟันธงว่านายวัชรพลฯ จากชาติพัฒนากล้าจะสามารถป้องกันแชมป์ไว้ได้อีกสมัย

เขตเลือกตั้งที่ 3 อำเภอเมืองนครราชสีมา เฉพาะ ต.โคกกรวด ต.ปรุใหญ่ ต.หนองจะบก ต.สุรนารี ต.หมื่นไวย ต.บ้านใหม่ ต.ไชยมงคล ต.หนองกระทุ่ม ต.พลกรัง ต.พุดซา และ ต.สีมุม และอำเภอโนนไทยเฉพาะ ต.ด่านจาก ต.กำปัง และต.สำโรง จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 164,200 คน พรรคเพื่อไทย นายวัฒนะชัย สืบศิริบุษย์ นักธุรกิจเจ้าของตลาดสดชื่อดังเมืองโคราช ลงชิงเก้าอี้ โดยมีฐานเสียงหลักเป็นนักธุรกิจ พ่อค้า แม่ค้า และผู้นำชุมชนบางส่วนในพื้นที่ ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ ส่งนายนายวีระวัฒน์ มิตรสูงเนิน อดีตประธาน สภา อบจ.นครราชสีมา มีฐานเสียงหลักเป็นนักการเมืองท้องถิ่น และผู้นำชุมชนในพื้นที่ ด้านพรรคชาติพัฒนากล้า ส่งนายสมศักดิ์ กาญจนวัฒนา หรือกำนันเบ้า นักการเมืองท้องถิ่นผู้กว้างขวางซึ่งเป็นพี่เขยของนายวีระวัฒน์ฯ นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง นักวิเคราะห์การเมืองโคราชระบุว่าเป็นเขตช้างชนช้างอีกหนึ่งเขตนี้และสุดท้ายนายสมศักดิ์ฯ จากชาติพัฒนากล้ามีสิทธิ์ลุ้นซิวเก้าอี้ ส.ส.เขต 3 มาครองได้มากที่สุด

เขตเลือกตั้งที่ 4 ประกอบด้วย อ.สูงเนิน อ.ขามทะเลสอ อ.โนนไทย ยกเว้น ต.ด่านจาก ต.กำปัง และตำบลสำโรง ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 160,331 คน พรรคเพื่อไทย ส่งนางสาวณัฐจิรา อิ่มวิเศษ หลานสาวของนักธุรกิจชื่อดังโคราช ดร.บุญมา อิ่มวิเศษ เจ้าของสินค้าครัวเรือนยี่ห้อดัง “สตาร์เวลล์” ลงชิงเก้าอี้ โดยมีฐานเสียงหลักเป็นนักการเมืองท้องถิ่น และผู้นำชุมชนในพื้นที่ ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ ส่งนายสุธรรม พรสันเทียะ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เมืองโคราช ซึ่งมีครอบครัวเคยใกล้ชิดกับ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี และลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคเพื่อไทยมาแล้วหลายสมัย แต่ครั้งนี้ย้ายพรรคเพราะไม่มีที่ให้ลง จึงมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐซึ่งถือว่ายังเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ในเขตนนี้ ด้านพรรคชาติพัฒนากล้า ส่งนายสมบัติ กาญจนวัฒนา อดีตประธานสภา อบจ.นครราชสีมา และเป็นน้องชายกำนันเบ้า สมศักดิ์ กาญจนวัฒนา นักการเมืองท้องถิ่นผู้กว้างขวางในพื้นที่ “สมบัติ”หาเสียงในเขตนี้มานานมีฐานเสียงจากนักการเมืองท้องถิ่น และผู้นำชุมชนแน่นปึ๊ก เขตนี้นักวิเคราะห์การเมืองฟันธงว่า นายสมบัติฯ จะสามารถแจ้งเกิดได้สักที โดยจะเบียดกับ “ณัฐจิรา” จากพรรคเพื่อไทย

เขตเลือกตั้งที่ 5 ประกอบด้วย อ.โนนสูง อ.เฉลิมพระเกียรติ ยกเว้น ต.พระพุทธ ต.หนองยาง และต.หนองงูเหลือม อำเภอพิมาย เฉพาะ ต.ชีวาน ต.สัมฤทธิ์ ต.กระเบื้องใหญ่และต.ท่าหลวง ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 163,114 คน พรรคเพื่อไทย ส่งนายสมเกียรติ ตันดิลกตระกูล รองนายก อบจ.นครราชสีมา เด็กในคาถาของกำนันป้อ “วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล” รมช.คมนาคม เจ้าของโรงแป้งมันเอี่ยมเฮง “สมเกียรติ”เป็นนักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานราชการรายใหญ่ของโคราช ลงชิงเก้าอี้ โดยมีฐานเสียงจากนักการเมืองท้องถิ่น ผู้นำชุมชน โดยมีกำนันป้อ “วีศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล” คอยลำเลียงเสบียงให้เต็มที่ แต่”สมเกียรติ”ต้องเจอศึกหนัก เพราะพรรคพลังประชารัฐ แชมป์เก่า ที่มีนายวิรัช รัตนเศรษฐ แกนนำคนสำคัญของพรรคลงมาคุมพื้นที่ดูแลทุกอย่างด้วยตัวเองโดยส่งบุตรชาย “นายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ” แชมป์เก่าลงป้องกันแชมป์ โดยมีฐานเสียงหลักเป็นผู้นำชุมชน ข้าราชการ และพ่อค้า คหบดีในพื้นที่ ส่วนพรรคภูมิใจไทย ส่งนายจักรกฤช ผาสุขมูล ลงชิงชัย และพรรคชาติพัฒนากล้า ส่งนายปิยเมษฐ ประณีตพลกรัง ชิงเก้าอี้ ซึ่งเขตนี้ฟันธงว่า “นายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ”เจ้าของเก้าอี้ ส.ส.เดิมจากพลังประชารัฐจะเบียดกับ”สมเกียรติ ตันดิลกตระกูล”จากพรรคเพื่อไทยอย่างสนุก

เขตเลือกตั้งที่ 6 อ.บัวใหญ่ อ.แก้งสนามนาง อ.สีดา และ อ.บัวลาย ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 164,491 คน พรรคเพื่อไทย ส่งนายโกศล ปัทมะ แชมป์เก่าหลายสมัย น้องชายนายนภดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ ลงรักษาที่นั่งโดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงและผู้นำชุมชน ชาวบ้านทุกอำเภอเป็นฐานเสียงหลัก โดยมีพรรคพลังประชารัฐ ส่งนางอรทัย พลวิเศษ ภรรยาของนายภิรมย์ พลวิเศษ ลงสู้ศึก หวังที่จะล้มช้างให้ได้ นักวิเคราะห์การเมืองยังมั่นใจว่า “โกศล ปัทมะ” จะสอบผ่านเช่นเคย

เขตเลือกตั้งที่ 7 อ.ประทาย อ.โนนแดง อ.ลำทะเมนชัย และ อ.เมืองยาง ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 162,007 คน พรรคเพื่อไทย ส่งนางสาวปิยะนุช ยินดีสุข สจ.นครราชสีมา เขต.ลำทะเมนชัย และเป็นสะใภ้ของโรงแป้งมันเอี่ยมธงชัย ลงชิงเก้าอี้โดยมีฐานเสียงเป็นผู้ท้องถิ่น ท้องที่และกลุ่มสตรีแม่บ้าน ส่วนพรรคพลังประชารัฐ ส่งนางทัศนียา รัตนเศรษฐ ภรรยาของนายวิรัช รัตนเศรษฐ ลงป้องกันแชมป์ ขณะที่พรรคภูมิใจไทย ส่งนายพีรพร สุวรรณฉวี บุตรชาย ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี และร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี อดีตนายก อบจ.นครราชสีมา ลงสู้ศึก คอการเมืองโคราชฟันธงเขตนี้เป็นเขตช้างชนช้างอีกหนึ่งเขตจะเป็นการเบียดกันแบบสูสีระหว่าง” ปิยะนุช” จากเพื่อไทย และ “ทัศนียา” จากพลังประชารัฐ

เขตเลือกตั้งที่ 8 อำเภอพิมาย ยกเว้น ต.สัมฤทธิ์ ต.ชีวาน ต.กระเบื้องใหญ่ และต.ท่าหลวง อำเภอชุมพวง ยกเว้น ต.โนนตูมและต.ตลาดไทร ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 163,938 คน พรรคเพื่อไทย ส่งนายนายนิกร โสมกลาง เลขานุการ “ยลดา หวังศุภกิจโกศล” นายก อบจ.นครราชสีมา ลงชิงเก้าอี้ ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ ส่งนางอรัชมน รัตนเศรษฐ ภรรยาของ “อธิรัฐ รัตนเศรษฐ” รมช.คมนาคม สะใภ้ของวิรัช รัตนเศรษฐ ลงสู้ศึก เขตเลือกตั้งนี้ถือเป็นเขตช้างชนช้างจะเป็นการเบียดกันระหว่าง “อรัชมน รัตนเศรษฐ” สะใภ้”วิรัช” และ”นิกร โสมกลาง” ว่าที่บุตรเขย “วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล “ รมช.คมนาคม ชนิดต้องถ่ายรูปตัดสิน

เขตเลือกตั้งที่ 9 อ.ห้วยแถลง อ.จักราช และ อ.ชุมพวง เฉพาะตำบลโนนตูมและตำบลตลาดไทร ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 167,109 คน พรรคภูมิใจไทย ส่งนายนายพลพีร์ สุวรรณฉวี เลขานุการ “อนุทิน ชาญวีรกุล” หัวหน้าพรรคฯบุตรชาย ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี อดีตนายกอบจ.นครราชสีมา ลงชิงเก้าอี้ ขณะที่พรรคเพื่อไทย ส่งนายธีระยุทธ ตันติกุล นักธุรกิจเจ้าของปั้มแก๊สหลายแห่งโดยมีฐานเสียงจากกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นหลักและนักธุรกิจคอยสนับสนุน ส่วนพรรคพลังประชารัฐ ส่งนางทัศนาพร เกษเมธีการุณ น้องสาว “ทัศนียา รัตนเศรษฐ” ภรรยานายวิรัช รัตนเศรษฐ ลงป้องกันแชมป์เพื่อรักษาเก้าอี้ โดยเขตนี้ คอเมืองโคราชฟันธงเป็นเขตช้างชนช้างอีกหนึ่งเขตในที่สุดก็จะตัดสินกันที่กระสุนดินดำของใครจะยิงเข้าเป้ามากกว่ากัน โดยจะเป็นการเบียดกันระหว่าง “ทัศนาพร”จากพลังประชารัฐกับ “ธีระยุทธ”จากเพื่อไทย โดยมี “พลพีร์” จากภูมิใจไทยตามมาติดๆ

เขตเลือกตั้งที่ 10 อ.โชคชัย อ.ครบุรี ยกเว้น ต.มาบตะโกเอน ต.ตะแบกบาน ต.ลำเพียก ต.โคกกระชาย และต.สระว่านพระยา และ อ.เฉลิมพระเกียรติเฉพาะ ต.หนองงูเหลือม ต.พระพุทธและต.หนองยาง ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 168,115 คน พรรคเพื่อไทย ส่งนายอภิชา เลิศพชรกมล หรือเสี่ยปื้ด ลงป้องกันแชมป์ หลังจากย้ายจากพรรคภูมิใจไทย มาสังกัดพรรคเพื่อไทย โดยมี “กำนันป้อ” นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.คมนาคม เจ้าของโรงแป้งมันเอี่ยมเฮงหนุนหลัง ขณะที่พรรคภูมิใจไทย ส่งนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีต รมช.มหาดไทย ลงท้าชิง ซึ่งเขตนี้ “บุญจง” หวังแจ้งเกิดอีกครั้งโดยมี “อนุทิน” หน.พรรคสนับสนุนเสบียงเต็มที่ แต่งานนี้ “กำนันป้อ” มีเสียงในมือพื้นที่ 7 ตำบลของอ.ครบุรี กว่า 6 หมื่นคะแนน มั่นใจดันลูกน้อง “อภิชา เลิศพชรกมล” เข้าสภารักษาแชมป์ไว้ได้ แต่ก็อย่าประมาท “บุญจง” แมว 9 ชีวิต อย่างเด็ดขาด

เขตเลือกตั้งที่ 11 อ.หนองบุญมาก อ.เสิงสาง และ อ.ครบุรี เฉพาะ ต.มาบตะโกเอน ต.ตะแบกบาน ต.ลำเพียก ต.โคกกระชาย และต.สระว่านพระยา ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 164,948 คน พรรคเพื่อไทย ส่งนายอาทิตย์ หวังศุภกิจโกศล บุตรชายกำนันป้อ “วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล” รมช.คมนาคม ลงชิงเก้าอี้ ส.ส. ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ ส่งพันตำรวจเอกปริวัฒน์ นาคำ อดีต ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหลายแห่ง หลายแห่ง ลงชิงชัย และพรรคภูมิใจไทย ส่ง”นายพรชัย อำนวยทรัพย์” อดีตคนสนิทกำนันป้อลงป้องกันแชมป์ โดยมี “อนุทิน ชาญวีรกุล” หน.พรรคภูมิใจไทยคอยสนับสนุน เขตนี้กำนันป้อต้องการให้ลูกชาย “อาทิตย์” เป็นส.ส. หมดเท่ารัยก็ต้องหมด เพื่อจะเอาเก้าอี้ ส.ส.เขตนี้คืนมาจากภูมิใจไทย ฟันธง “อาทิตย์” ลูกชายกำนันป้อเหนือกว่า “พรชัย” แชมป์เก่า

เขตเลือกตั้งที่ 12 อ.ปักธงชัย และ อ.วังน้ำเขียว ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 161,245 คน พรรคภูมิใจไทย ส่งนายสมศักดิ์ พันธุ์เกษม ที่ย้ายมาจากพลังประชารัฐลงรักษาเก้าอี้ แต่ต้องเจอศึกหนักเมื่อกำนันป้อจากพรรคเพื่อไทยดับเครื่องชนดัน นายนรเสฎฐ์ ศิริโรจนกุล รองนายก อบจ.นครราชสีมาบุตรชายของโรงแป้งเอี่ยมธงชัย หลานกำนันป้อ ลงท้าชิง โดยฐานเสียงจะเป็นเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติของ”ลุงตู่”ส่งประนอม โพธิ์คำ อดีต สส.ลงชิงเก้าอี้ โดยเขตนี้คอการเมืองยกให้เป็นเขตช้างชนช้างจะเป็นการแย่งเก้าอี้กันระหว่างแชมป์เก่า “สมศักดิ์ พันธุ์เกษม” จากภูมิใจไทยกับ”นรเสฏฐ์ ศิริโรจนกุล” จากเพื่อไทย

เขตเลือกตั้งที่ 13 อ.สีคิ้ว และ อ.ปากช่องเฉพาะ ต.วังไทร ต.คลองม่วง ต.วังกระทะ และต.โป่งตาลอง ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 160,839 คน เขตนี้เดิมเก้าอี้ส.ส.เป็นของ “ประเสริฐ จันทรรวงทอง”เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แต่ครั้งนี้ “ประเสริฐ”ขึ้นไปสมัครในระบบบัญชีรายชื่อดันลูกชาย “นายพชร จันทรรวงทอง”ลงสมัครแทน โดยมีคู่แข่งจากพรรคพลังประชารัฐ “นายสุกฤษณ์ วัชรมาลีกุล”และพรรคชาติพัฒนากล้า “นายวรพจน์ บุญจันทึก” แต่ประเสริฐฯเลขาธิการพรรคเพื่อไทย มั่นใจอุ้มลูกชาย “พชร”เข้าสภาได้อย่างแน่นอน

เขตเลือกตั้งที่ 14 อ.ปากช่อง ยกเว้น ต.วังไทร ต.คลองม่วง ต.วังกระทะ และต.โป่งตาลอง ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 159,332 คน สนามเลือกตั้งเขตนี้ “นายศิรสิทธิ์ เลิศด้วยลาภ”จากพรรคเพื่อไทยเป็นแชมป์เก่ามาหลายสมัย แต่ แต่ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ “ศิรสิทธิ์”ต้องเจอคู่แข่งทั้งจากพรรคพลังประชารัฐ นายวิรัตน์ วาริชอลังการและพรรคภูมิใจไทย นายมานิตย์ จันทรวราภร ที่ได้หัวหน้าพรรค “อนุทิน” สนับสนุน แต่”ศิรสิทธิ์” ได้ทั้ง”ประเสริฐ จันทรรวงทอง” เลขาธิการพรรคฯและ กำนันป้อ “วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล” คอยส่งเสบียงสนับสนุน จึงมั่นใจจะรักษาเก้า ส.ส.เอาไว้ได้ โดยมี “มานิตย์ จันทรวราภร” จากภูมิใจไทยคอยหายใจรดต้นคอ

เขตเลือกตั้งที่ 15 อ.ด่านขุนทด อ.เทพารักษ์ และ อ.พระทองคำ เฉพาะ ต.ทัพรั้งและต.มาบกราด ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 169,957 คน สนามเลือกตั้งเขตนี้ มี “วิสิทธิ์ พิทยาภรณ์” ส.ส.ต๋อง จากค่ายภูมิใจไทยเป็นแชมป์เก่า มีฐานเสียงจากผู้นำท้องถิ่น นายก อบต.และกลุ่มแม่บ้าน แต่ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ยังคงมีคู่แข่งสำคัญจากสองพรรค ได้แก่ นายรชตะ ด่านกุล จากเพื่อไทยและนายพจน์ เจริญสันเทียะ จากพลังประชารัฐ แต่คอการการวิเคราะห์ว่า เขตเลือกตั้งนี้จะเป็นการชิงกันระหว่าง “วิสิทธิ์” จากภูมิใจไทยและ”พจน์” จากพลังประชารัฐ โดยมี “รชตะ” จากเพื่อไทยจะเป็นตัวสอดแทรก

เขตเลือกตั้งที่ 16 อ.คง อ.ขามสะแกแสง อ.บ้านเหลื่อม และ อ.พระทองคำยกเว้น ต.ทัพรั้งและต.มาบกราด ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 166,671 คน สนามเลือกตั้งเขตนี้เดิมเก้าอี้ ส.ส.เป็นของพรรคเพื่อไทย นายสุชาติ ภิญโญ แต่เลือกตั้งครั้งนี้”สุชาติ”ย้ายไปซบภูมิใจไทย โดยมีคู่แข่งสำคัญจากพรรคเพื่อไทย”นายพรเทพ ศิริโรจนกุล” สจ.นครราชสีมาเขตอ.ปักธงชัย พี่ชายนรเสฏฐ์ ศิริโรจนกุล รองนายก อบจ.นครราชสีมา และเป็นทายาทคนโตของโรงแป้งมันเอี่ยมธงชัย หลานกำนันป้อ “วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล “ นอกจากนี้พลังประชารัฐโดยวิรัช รัตนเศรษฐ ยังส่งลูกชายคนเล็ก “นายตติรัฐ รัตนเศรษฐ” มาลงสนามนี้ด้วย ยังไม่พอพรรครวมไทยสร้างชาติของลุงตู่ได้ “นวกิจ พลวิเศษ “ ลูกชาย “ภิรมย์ พลวิเศษ” มาลงชิงเก้าอี้อีกคน ส่งผลให้สนามนี้กลายเป็นสนามช้างชนช้างอีกหนึ่งสนาม โดยจะมีปัจจัยเรื่องกระสุนจะเป็นตัวชี้ขาดในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียง และจะเบียดแย่งเก้าอี้กันระหว่าง “สุชาติ ภิญโญ” จากภูมิใจไทย “ตติรัฐ รัตนเศรษฐ” จากค่ายพลังประชารัฐและ”พรเทพ ศิริโรจนกุล” จากเพื่อไทย

สรุปคาดคะเนผลการเลือกตั้งสนามจังหวัดนครราชสีมาในวันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม 2566 นี้ ทั้ง 16 เขต 16 เก้าอี้ พรรคเพื่อไทยจะได้ 9 ที่นั่ง พรรคชาติพัฒนากล้า 4 ที่นั่ง พรรคพลังประชารัฐ 2 ที่นั่ง และพรรคภูมิใจไทย 1 ที่นั่ง

mm88