วันนี้ (21 ตุลาคม 2564) มวลน้ำจากลำน้ำลำตะคองในเขตเทศบาลเมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ยังเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในชุมชนต่างๆที่อยู่ใกล้กับลำน้ำ โดยเฉพาะที่วัดสามัคคี ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา และที่ชุมชนหลังวัดสามัคคี พบว่า มวลน้ำได้เอ่อไหลเข้าท่วมบริเวณโดยรอบวัด และท่วมบ้านเรือน 120 หลังคาเรือนเสียหายทุกหลัง มีประชาชนกว่า 500 คน ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งบางจุดในชุมชนถูกน้ำหนักท่วมสูงเกิน 1 เมตร กระแสน้ำไหลเชี่ยว จนไม่สามารถพักอยู่อาศัยได้ คนที่มีบ้านชั้นเดียวต้องอพยพไปอาศัยอยู่ที่ศาลาวัดสามัคคี ซึ่งตั้งอยู่ปากทางเข้าชุมชน และน้ำยังท่วมไม่ถึง
โดยนายวิชัย บุญพร อายุ 50 ปี ชาวบ้านหลังวัดสามัคคีอีกราย ได้เล่าถึงนาทีหนีน้ำกันจ้าละหวั่นว่า มวลน้ำที่เอ่อท่วมได้เพิ่มระดับสูงขึ้นทุกนาที คนในชุมชนหลังวัดสามัคคีได้รับผลกระทบทุกหลังคาเรือน บ้านสองชั้นก็โชคดีหน่อย อยู่เฝ้าบ้านได้โดยไม่ต้องออกมาอาศัยวัด เพราะมีคนส่งข้าวส่งน้ำไปช่วย แต่คนบ้านชั้นเดียวจะได้รับความเสียหายอย่างมาก ซึ่งบ้านของตนอยู่ใกล้กับสะพานข้ามลำน้ำลำตะคอง สภาพเป็นเหมือนแอ่งกระทะ เป็นป่าช้าเก่า ตอนนี้เห็นแต่หลังคา ฝาบ้านเปิด บ้านทรุด ต้นจามจุรีโค่น ข้าวของในบ้านลอยไปตามกระแสน้ำ เพราะมวลน้ำมาเร็วและแรงมาก ขนของหนีน้ำไม่ทัน หยิบฉวยได้แค่ที่นอน เครื่องซักผ้า และตู้เย็น กับพาภรรยาและลูกหลานหนีน้ำออกมาเท่านั้น อย่างอื่นขนย้ายออกมาไม่ได้ ต้องปล่อยทิ้งไว้ คาดว่า ถ้ายังท่วมอย่างนี้นานๆ บ้านต้องพังทั้งหลังแน่นอน ตอนนี้ก็อพยพพากันมาอาศัยอยู่ที่วัดสามัคคีก่อน มีที่หลบฟ้าฝน หลบภัยน้ำท่วม และมีอาหารการกินที่หลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ ส่วนคนที่ยังสามารถอยู่ด้านในชุมชนได้ ก็ต้องลำบากโดนน้ำล้อมรอบ บ้านเรือนพังเสียหายตามๆ กัน
ด้านนางรจนา แสงอรุณ อายุ 51 ปี เลขานุการชุมชนหลังวัดสามัคคี ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา บอกว่า ในชุมชนจะมีประชาชนพักอาศัยค่อนข้างหนาแน่นอยู่ราว 500 คน ราว 120 หลังคาเรือน มวลน้ำลำตะคองที่อยู่ติดกับชุมชนเอ่อขึ้นสูงตั้งแต่เมื่อคืนวานนี้ ปัจจุบันระดับน้ำที่ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างในชุมชน สูงมากเกิน 1 เมตรโดยเฉพาะจุดที่เป็นที่ตั้งของโรงเจ ซึ่งตอนนี้มีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว ทั้งจากเทศบาลนครฯ ตำรวจภูธรจังหวัดฯ ศูนย์คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกันของพรรคชาติพัฒนา ส่งคนและทรัพยากรเข้ามาช่วยเหลืออพยพประชาชนและลำเลียงผู้ป่วยติดเตียงไปอยู่ที่วัดสามัคคีซึ่งน้ำยังท่วมไม่ถึง ส่วนตอนนี้เรื่องอาหารการกิน มีเทศบาลนครฯ กับตำรวจภูธรจังหวัดฯ เข้ามาช่วยเหลือจัดตั้งโรงครัวทำอาหารปรุงสุก ข้าวกล่อง และน้ำ ไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยในในชุมชนที่ยังพักอาศัยอยู่ด้านในและที่อพยพออกมา แต่ที่เดือดร้อนจริงๆ คือเรื่องห้องสุขา เนื่องจากระดับน้ำท่วมสูง ทำให้ไม่สามารถเข้าห้องน้ำ-ขับถ่ายกันได้ จึงต้องอาศัยเดินลุยฝ่ากระแสน้ำมาเข้าห้องน้ำ-ห้องสุขาที่วัดสามัคคี ซึ่งอยู่ใกล้บ้านที่สุด
