เห็นนิ่งๆ เงียบๆ แต่ถ้าย้อนกลับไปสมัยก่อนคือ แจ๊บ-เพ็ญเพชร เพ็ญกุล ก็เคี้ยวเล็บเพียบคนหนึ่งเลยทีเดียว เมื่อได้มาเยือน รายการต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ได้เผยแบบหมดเปลือกยอมรับแบบตรงๆ ว่าตอนยังโสดคบสาวๆ ศึกษาดูใจกันพร้อมกันถึง 4 คน แต่พอเจอคนที่ใช่คือภรรยาคนปัจจุบันก็ถอดเคี้ยวเล็บ ยืนหนึ่งเป็นแฟมิลี่แมนคนรักครอบครัว พร้อมกับเผยอดีตความฮอต ขนาดที่แฟนคลับปีนเข้ามาหาถึงในบ้าน! พร้อมบอกเหตุผลที่ไม่ให้ลูกและภรรยาดูละครของตัวเอง
เมื่อ แจ๊บ มาอยู่ตรงนี้แล้วต้องถามก่อนเลยว่าจริงไหมที่เขาบอกว่าเป็นหนุ่มฮอตที่แบบช่วงหนึ่งใช้ชีวิตสุดเหมือนกัน
แจ๊บ : “ก็มีช่วงหนึ่งครับก็ใช้ให้คุ้ม”
ย้อนกลับไป แจ๊บ คือ เข้าวงการตั้งแต่ห้าขวบ
แจ๊บ : “เพราะว่านคุณแม่เคยทำเอเจนซี่เราเลยได้ถ่ายโฆษณามาตั้งแต่เด็กๆ ตอนแรกก็ไม่ใช่เราที่ได้ถ่ายเลยนะครับ คือ เด็กที่มาเป็นแบบที่จะต้องถ่ายเขามาแล้วเขางอแงคุณแม่ของเราก็เลยจับให้เราเข้าไปถ่ายครับ พอคนอื่นๆ เขาเห็นเราทำได้ก็เลยติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ ช่วงที่เข้าวงการจริงๆ จังๆ ก็เล่นหนังเรื่องแรกตอนนั้นอายุ 18 ค่ะ พอเป็นวัยรุ่นก็เริ่มถ่ายแบบลงหนังสือวัยรุ่น”
แล้วพอเข้ามาในวงการแบบเต็มตัวชีวิตเปลี่ยนไปเยอะไหม
แจ๊บ : “เปลี่ยนเยอะเลยครับ เราก็ไม่ค่อยมีเวลาปกติอย่างที่เพื่อนๆ เขามีกันแล้วเราเป็นคนติดกิจกรรมที่ทำกับเพื่อนๆด้วยคือ เตะฟุตบอล ทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆตลอดเราก็หายไปเลยไม่ได้เล่นบอลหลุดจากทีมไปเลย”
ถ้าย้อนกลับไปตอนนั้นเรารู้สึกว่าเราอยากเข้าวงการไหม เราสนุก เราภูมิใจ หรือเรารู้สึกแบบต้องทำหรือตอนนั้นคิดยังไง
แจ๊บ : “เวลาเล่น คือ เราชอบครับ แต่เวลาที่เรารอเรารู้สึกว่าเราเสียเวลา มันนานมันช้า เวลามันก็ไม่มีคำตอบว่าจะต้องรอนานแค่ไหนแบบไปเช้าถ่ายบ่าย”
เพราะแบบนี้หรือเปล่าถึงมีข่าวออกมาว่า แจ๊บ ไปถ่ายกองสาย
แจ๊บ : “ก็มีทั้งขี้เกียจด้วย แล้วก็มีทั้งเผื่อเวลาด้วยอย่างเราไปช้าชั่วโมง สองชั่วโมงเผื่อเขาถ่ายพอดี แต่บางทีมันไม่พอดีไงครับเราผิดเอง เพราะว่าบางครั้งที่เราคิดว่าเขาเรท แต่เขากลับตรงเวลาครับ”
แต่กว่าที่ แจ๊บ จะมาถ่ายละคร เล่นหนัง เคยถ่ายโฆษณาไปห้าสิบกว่าตัวเลย
แจ๊บ : “ใช่ครับ เพราะว่าสมัยก่อนแบบไม่ค่อยเยอะคู่แข่งก็น้อย”
แต่ต้องบอกว่าเป็นคนที่ฮอตมากมาตลอด เพราะตั้งแต่ที่มาเล่นละคร ถ่ายหนัง ก็มีแฟนคลับที่เรียกคลั่งรักจนตามมาถึงบ้านถึงขั้นปีนรั้วเลย
แจ๊บ : “คือเขาเข้ามาไปนั่งแอบที่ระเบียงแล้วก็พกมีดมาด้วย เหมือนว่าถ้าเราไม่รับรักเขาเราก็จะตายไปพร้อมกัน (อันนี้ที่เขาพูดกับตำรวจนะครับ) เพราะวันนั้นพอดีจังหวะที่ผมไปถ่ายละครอยู่ข้างนอกผมก็เลยให้คุณแม่เรียกตำรวจมาสรุปว่าเขาสติไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับ ให้ญาติๆ มารับกลับไปผมก็ไม่ได้แจ้งความอะไร”
หรือที่รับรักคนที่ปีนบ้านไม่ได้เพราะว่าตอนนั้นเขาคุยสาวอยู่สี่คนหรือเปล่า
แจ๊บ : “ต้องบอกก่อนนะครับ ว่าไม่ใช่แฟนนะครับ แต่เป็นการเดท ตอนนั้นเป็นช่วงมีแฟนเราก็จะมีแฟนแค่คนเดียว แต่ตอนช่วงที่เราเลิกกับแฟนแล้วก็จะเดทไปเรื่อยๆ ซึ่งตอนนั้นที่เดทอยู่ผมก็ต้องทานข้าวสี่รอบ ดูหนังเรื่องเดิมสี่รอบ ตอนนั้น ไททานิค เรื่องเดียวสามชั่วโมงผมจำได้ทุกฉากเลยแล้วก็ดูในวันเดียวกันเพราะช่วงว่างๆ ของเราจะไม่เยอะมากเลยต้องใช้ให้คุ้ม”
แล้วทั้งสี่คนมีใครจับได้ไหมว่าเราคบซ้อน
แจ๊บ : “ไม่มีเลยครับ เพราะว่าตอนนั้นโซเชียลก็ไม่มีอะไรมากขนาดนี้ ตอนนั้นมีแค่เพจโฟนเอง”
แล้วเราก็คือคนที่สะสางรถไฟสี่ขบวนจบลงเพราะว่าเราเป็นคนเลือกเอง
แจ๊บ : “ก็หายๆ กันไปเพราะว่าบางคนก็ไม่ได้คุย บางคนดูแล้วว่าเราเจ้าชู้แน่นอนเขาก็ไม่คบกับเรา ก็พูดว่าตอนนั้นเราก็เจ้าชู้มากส่วนใหญ่สาวๆ ที่เข้ามาก็จะลองของเราก็ไม่ได้ปิดครับ ใครอยากลองก็เข้ามา (หัวเราะ)”
ตอนนี้ก็หยุดทุกอย่างเพราะว่ามีครอบครัวแล้ว
แจ๊บ : “เปลี่ยนไปเยอะเลยครับ ตั้งแต่แต่งงานเราก็เลิกเลย เพราะอะไรเขาถึงมัดใจผมได้เพราะว่าเป็นคนที่ตรง สเปกผมที่สุด คือ เขาเป็นผู้หญิงที่สวยมากแล้วก็ไลฟ์สไตล์เราเหมือนกันมาก”
ถามตรงๆ ผู้ชายหยุดเจ้าชู้ได้
แจ๊บ : “ถ้ามีแฟนอยู่หรือว่ามีครอบครัวก็ไม่ควรที่จะเจ้าชู้นะครับ ควรจะให้เกียรติคนที่เราคบอยู่ แต่ที่มองๆ มีอยู่แล้วครับ แต่เราก็แค่มองเฉยๆ เป็นเรื่องปกติ”
ตอนนี้เรียกว่าเป็นแฟมิลี่แมนแบบเต็มตัวแล้วคือ ติดลูกมากเพราะลูกเป็นลูกสาวด้วย
แจ๊บ : “ที่เราเห็นหน้าลูกสาวของเราครั้งแรกคือ รู้สึกว่าเขาหน้าตาเหมือนเรามาก ตอนแรกก็กลัวเขาเป็นทอมเหมือนกัน แต่ระยะปีสองปีมาเขาเริ่มๆ ชอบอะไรที่เหมือนผู้หญิงแล้ว ถ้าถามว่าวลูกสาวติดใครมากกว่ากันจริงๆเขาติดทั้งพ่อและแม่เลยครับ ถ้าไปช้อปปิ้งเขาจะไปกับแม่ แต่ถ้าจะเล่นหรืออยากรู้อะไรเขาก็จะมาถามผม”
ส่วนใหญ่ทำไมไม่ให้คุณภรรยาและลูกดูผลงานที่ตัวเองแสดงเท่าไหร่
แจ๊บ : “คือ ภรรยาเขาจะไม่ชอบดูเองเพราะเขาไม่ชอบดูที่เราเล่นเพราะว่ามันไม่ใช่ตัวเรา เพราะเขาดูแล้วเขาจะเฟล แต่ลูกสาวมีครั้งหนึ่งแล้วคุณยายมาที่บ้านแล้วคุณยายติดละครที่เราเล่นแล้วเปิดค้างไว้แล้วลูกกลับมาจากโรงเรียนพอดีแล้วเขาเห็นจังหวะที่เราตบลูกน้องพอดีเลยในเรื่องนะครับ ลูกเห็นแล้วร้องไห้เลยหลังจากนั้นก็เลยไม่กล้าให้ลูกดู”
แต่อย่างเรื่องล่าสุด ตะวันตกดิน เป็นคนดีแล้วในเรื่องนี้
แจ๊บ : “สำหรับเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความต้องการของมนุษย์ที่มีความต้องการไม่เหมือนกัน แต่ก็พยายามแก่งแย่งกัน แต่ในเรื่องนี้ตัวที่ผมเล่นเป็นคนดีมากเป็นหัวหน้าครอบครัว เข้าใจโลก ผ่านโลกมาเยอะ แล้วก็ใช้ชีวิตแบบธรรมดา เรียกว่าในเรื่องนี้ผมกับลูกสาวเป็นคนที่เข้าใจทุกคนในเรื่องหมด ซึ่งลูกสาวที่เล่นในเรื่องนี้คือ น้ำตาล”
เทียบกันระหว่างบทบาท กับ แจ๊บ เหมือนหรือต่างกันยังไง
แจ๊บ : “ตอนนี้ต่างกันอย่างเดียวคือ เรื่องมัธยัสถ์ เพราะผมเป็นคนใช้เงินเก่งแต่ตอนนี้มีเท่าไหร่ให้แฟนเก็บทั้งหมดเลยครับ ก็ขอฝากแฟนๆ ติดตามชมละครเรื่องนี้ ตะวันตกดิน ดราม่าเข้มข้นแน่นอน ทุกเสาร์และอาทิตย์ ตอน 22.00 น. นะครับ”
สามารถชมรายการ ต้มยำอมรินทร์ ย้อนหลังได้ทาง ยูทูป
