น้าสารภาพฆ่าหลานถ่วงทะเล สุดทนขโมย-ติดยา ก่อนเกิดเหตุถูกทุบด้วยท่อนเหล็ก แต่แย่งได้แล้วทุบจนแน่นิ่ง พาศพขึ้นเรือโยนถ่วงทะเล ไม่รู้ขณะโยนเสียชีวิตแล้วหรือไม่
จากกรณีเหตุฆาตกรรมแล้วนำศพไปถ่วงทะเลที่ตำบลบางพระ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา และเมื่อวันที่ 27 เม.งย. เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจากหินถ่วงศพ 3 ก้อน จนพบว่าผู้เสียชีวิตคือ นายเฉลิมชัย หรือ ก๊อต อายุ 23 ปี
โดยผู้ต้องหาที่ก่อเหตุนำศพไปถ่วงน้ำคือ นายสมพิน อายุ 52 ปี เป็นน้าชายซึ่งอาศัยอยู่บ้านเดียวกับผู้ตาย ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวไว้ได้ โดยพบมูลเหตุความขัดแย้งในครอบครัวระหว่างนายสมพิณกับนายเฉลิมชัย มาต่อเนื่องจนเกิดการทำร้ายร่ายกายจนนายเฉลิมชัยเสียชีวิตก่อนที่จะนำศพขึ้นเรือประมงไปทิ้งกลางทะเล
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ (28 เม.ย.) พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ บิ๊กโจ๊ก ได้เดินทางเข้าเร่งรัดสำนวนคดี และเข้าทำการสอบปากคำผู้ต้องหารายนี้ด้วยตัวเอง ถึงกับอึ้งถึงเหตุการณ์ก่อนเกิดเหตุที่ทำน้าชายก่อเหตุฆ่าหลานตัวเองอย่างสุดที่จะทนกับการโจรกรรมทรัพย์สินในบ้าน และถูกข่มเหงบ่อยครั้งจากการติดยาเสพติดของผู้ตาย โดยแสดงความเห็นใจผู้ต้องหา แต่เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมายไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
โดย นายสมพิน ผู้ต้องหาได้ยอมรับสารภาพถึงเหตุที่สะสมมาต่อเนื่องยาวนาน โดยวันก่อนเกิดเหตุได้มีเรื่องกับผู้ตายอีกครั้งจากที่ผู้ตายได้ขโมยเสื้อผ้าที่เพิ่งซื้อมาใหม่
นายสมพิน ระบุว่า เวลาประมาณ 01.00 น.วันที่ 17 ต่อเนื่อง 18 เม.ย. ได้ตื่นนอนขึ้นมาเพื่อเตรียมไปออกเรือ และพบว่านายเฉลิมชัยได้ขโมยเสื้อผ้าชุดใหม่ที่เพิ่งซื้อมาไปใส่ ด้วยความไม่พอใจจึงเรียกนายเฉลิมชัยมาพูดคุย ปรากฎว่านายเฉลิมชัยได้หยิบท่อนเหล็กแป๊บมาหวดตีตนเอง แต่ขณะนั้นคว้าหมอนมาป้องกันตนเองได้ทัน ก่อนที่จะแย่งท่อนเหล็กหวดทุบกลับไปยังนายเฉลิมชัย 5-6 ครั้ง จนแน่นิ่งไป
หลังจากตั้งสติได้จึงรอจนกระทั่งเห็นว่านายเฉลิมชัยไม่ฟื้น จึงไปดื่มกาแฟและเห็นว่านายเฉลิมชัยไม่รู้สึกตัว จึงนำร่างไปบรรทุกรถจักรยานยนต์พ่วงข้างแล้วคลุมทับด้วยสแลนพรางแสง มุ่งหน้าไปยังท่าเรือที่อยู่ห่างจากบ้านไปราว 3 กม.
จากนั้นได้นำขึ้นเรือแล้วขับเรือออกไปนำศพไปทิ้งกลางทะเล โดยได้นำหินถ่วงเครื่องมือประมงผูกมัดกับร่างรวม 21 ก้อน แล้วนำเรือกลับเข้าฝั่งและไม่รู้ว่าขณะที่ผูกถ่วงทิ้งทะเลไปนั้นนายเฉลิมชัยเสียชีวิตก่อนแล้วหรือไม่
ซึ่งในเรื่องนี้ปรากฎว่าสอดคล้องกับรายงานการชันสูตร เบื้องต้น พบว่าในปอดของผู้ตายนั้นมีน้ำและทรายอยู่ในปอด จึงเป็นไปได้ว่าขณะที่ถูกทิ้งถ่วงทะเลนั้นอาจยังไม่เสียชีวิต แต่เสียชีวิตจากการจมน้ำก็เป็นได
ขณะที่ พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องได้ทั้งหมดเป็นของกลาง ซึ่งผู้ต้องหารับว่าได้ผูกถ่วงศพด้วยก้อนหินถึง 21 ก้อน แต่เข้าใจว่าหลุดออกทำให้เหลือเพียง 3 ก้อน ศพจึงลอยพาขึ้นมา
ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจากหินถ่วงศพจนพบว่าผู้ตายเป็นใคร จึงเป็นเหตุให้สามารถจับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้อย่างรวดเร็วในเวลาเพียง 3 วัน ส่วนสาเหตุนั้นพบว่าผู้ตายแม้จะถูกผู้ต้องหาเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็ก แต่มีพฤติการณ์ที่ลักเล็กขโมยน้อยในบ้านและติดยา เป็นเหตุทะเลาะวิวาทกับน้าชายมาเรื้อรังจนเกิดเหตุขึ้น
อย่างไรก็ตาม ภายหลังพลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล ได้มอบเงินรางวัลให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สืบสวนคลี่คลายคดีจากหินที่ถ่วงศพจนสำเร็จ เป็นเงินจำนวนหนึ่งเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ และได้เร่งรัดคดีค้างเก่าที่ในเขตจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งขณะนี้ได้ผลการจับกุมติดตามคดีเป็นที่น่าพอใจ
