เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 12 ก.พ.2565 พล.ต.ต.วิรุตติ์ เย็นสวัสดิ์ ผู้บังคับการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 พร้อมด้วย พ.ต.อ.พงษ์ขจร สุกกสังค์ ผกก.สภ.เกาะสมุย พงต.ท.วรพงศ์ ชุมวรฐายี รอง ผกก.สส. เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 พนักงานสอบสวน เข้าเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ ที่บ้าน ในพื้นที่ ต.ลิปะน้อย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎรานี ซึ่งเป็นบ้านที่ นายบรรจุ อายุ 48 ปี พ่อตาปืนโหดใช้อาวุธปืนลูกโม่ 2 กระบอก ยิง นายกิตติพงศ์ อายุ 48 ปี ลูกเขยจนเสียชีวิตเมื่อวานนี้
โดยทางเจ้าหน้าที่ศุนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 ได้เก็บชิ้นส่วนหัวกระสุนที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวน 5 หัว ซึ่งในเบื้องต้นระบุได้ว่าเป็นหัวกระสุนปืน ขนาด.357 และอาวุธปืนขนาด .38 พร้อมทั้งเก็บไม้ที่คนร้ายใช้ทุบตีผู้ตาย รวมทั้งรองเท้าที่เปื้อนเลือดของผู้ตาย เก็บหลักฐานทั้งหมดไปเพื่อประกอบคดี
ส่วนความคืบหน้าของคดีทางพนักงานสอบสวนได้ขออนุญาติศาลจังหวัดเกาะสมุย ออกหมายจับ นายบรรจุ ผู้ก่อเหตุแล้ว ในข้อหาฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงติดตามไล่จับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุร้ายนี้ ที่ยังคงหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในขณะนี้ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะเดียวกันในวันนี้ นางจุฑามาศ อายุ 28 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางออกมาจากโรงพยาบลเกาะสมุยมาที่บ้านหลังดังกล่าว เพื่อมาดูจุดเกิดเหตุ โดยในอ้อมแขนยังคงกอดเสื้อของสามีไว้ตลอดเวลา และหลั่งน้ำตาร้องไห้ ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นางจุฑามาศ เปิดเผยชนวนเหตุในครั้งนี้ว่า ปัญหาเกิดจากที่แม่ของตนได้ฝากทรัพย์สินไว้ให้ตนและสามีคอยดูแล ร่วมถึงอาวุธปืนขนาด .38 ซึ่งเป็นปืนมีทะเบียนของแม่ และทรัพย์สินอื่น แต่เมื่อพ่อได้พ้นโทษออกมาจากคุก พ่อจะเอาอาวุธปืนของแม่ไปครอบครอง แต่ทางผู้ตายไม่อยากให้ เพราะเป็นทรัพย์สินของแม่ที่ฝากไว้ ก่อนหน้านี้สามีเคยเอาอาวุธปืนของตัวเองให้พ่อไปแล้ว 1 กระบอก เพื่อแก้ปัญหานี้ แต่พ่อก็ยังจะเอาปืนของแม่อีก จึงเชื่อว่าพ่อเกิดความไม่พอใจในเรื่องนี้ รวมถึงทรัพย์อื่นของแม่ที่แม่ฝากไว้ พ่อก็จะขอเอาไป ซึ่งตนมองว่าพ่อเป็นคนเห็นแก่ตัว เรียกร้องจะเอาแต่ของที่ไม่ใช่ของตัวเอง
การที่ตนอออกมาพูดในครั้งนี้ เพื่อต้องการเรียกความเป็นธรรมให้กับสามีที่เสียชีวิตไป เพราะสามีเป็นคนดีมาก ดูแลตนเองที่ป่วย ร่วมถึงดูแลทุกคนในครอบครัวเป็นอย่างดี ตนไม่นึกเลยว่าพ่อจะเป็นคนจิตใจดำอำมหิตได้ขนาดนี้ แม้สามีของลูก ที่ดูแลลูกและครอบครัวเป็นอย่างดี พ่อก็ลงมือฆ่าเขาได้ลงคอ ตนจึงออกมาเรียกความเป็นธรรมผู้เสียชีวิต ร่วมถึงเรียกความเป็นธรรมให้กับครอบครัวของสามีที่ต้องสูญเสียคนที่รัก อยากฝากไปถึงพ่อที่ยังคงหลบหนีอยู่ ให้พ่อเข้ามามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรม มารับผิดชอบในสิ่งที่พ่อได้กระทำ ตนอยากบอกว่าตนเสียใจมากกับสิ่งที่พ่อได้กระทำลงไป ถึงขณะนี้คำว่าพ่อตนเองแทบจะไม่อยากเรียกคำนี้อีกแล้ว
ขณะเดียวกันทางแพทย์โรงพยาบาลเกาะสมุย ได้แจ้งมายังทางพนักงานสอบสวน สภ.เกาะสมุย ว่าผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากร่างกายของ นายกิตติพงศ์ ผู้เสียชีวิต ผลพบว่า นายกิตติพงศ์ ผู้เสียชีวิตติดเชื้อโควิด จึงแจ้งให้ผู้ที่เข้าไปใกล้ชิดกับ นายกิตติพงศ์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเมื่อวานนี้ แยกตัวและเฝ้าสังเกตอาการของตัวด้วย
