ลุงวัย 58 ถือมีดอีโต้ย่องฟันคอฆ่าแม่เฒ่าวัย78 ซึ่งเป็นแม่ยายของน้องชาย เสียชีวิตคาบ้าน แค้นปมมรดกพ่อแม่
(5 มี.ค.65) เวลา 08.30 น. ร.ต.อ.พีรยุทธ อุชชิน รอง สว. สอบสวน สภ.น้ำโสม จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกฆ่า ที่บ้าน หมู่ 14 บ้านหยวก จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.เชี่ยวชาญ มีชัย ผกก.สภ.น้ำโสม พ.ต.ท.พรมมี โสระศรี รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.น้ำโสม เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.น้ำโสม อาสากู้ภัยทางหลวงจุดน้ำโสม รุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ไม้ครึ่งปูน พบศพนางมะลัย อายุ 78 ปี ถูกฟันด้วยของมีคมบริเวณใบหน้าและลำคอหวิดขาด นอนจมกองเลือดอยู่ในห้องน้ำหลังบ้าน สวมเสื้อแขนสั้นสีเหลือง ผ้าถุงลายดอกสีแดง น่าสยดสยองแก่ผู้พบเห็น โดยมีชาวบ้านจำนวนมากมามุงดูจำนวนมาก ส่วนมาตรกรใจโหดเหี้ยมมีพยานเห็น นายลคร อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นญาติ มีบ้านอยู่ห่างกันเพียง 100 เมตร เดินถือมีดอีโต้ออกจากบ้านไปก่อนหน้านี้
โดยตำรวจออกติดตามจับกุมนายละครได้ขณะไปขอน้ำชาวบ้านดื่ม ห่างจากจุดเกิดเหตุ 300 เมตร โดยนายลคร ผู้ต้องหา มีสภาพเมาสุราและมีดอีโต้มีคราบเลือดของกลางที่ก่อเหตุ จึงควบคุมตัวไปโรงพักทำการสอบสวน ซึ่งนายลครผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ได้ใช้มีดอีโต้ฟันคอผู้ตายจริง โดยผู้ตายเป็นแม่ยายของน้องชายตน ซึ่งน้องชายของตนเลี้ยงพ่อแม่จึงได้รับมรดกเป็นที่ดินและบ้านจากพ่อแม่ ส่วนพ่อแม่ได้เสียชีวิตไปหมดแล้ว ซึ่งต่อมาน้องชายของตนเสียชีวิต น้องสะใภ้ได้เอาพ่อแม่มาอยู่ด้วย ทำให้ตนไม่พอใจ เพราะบ้านและที่ดินเป็นมรดกของพ่อแม่ตน น้องสะใภ้และหลานได้ขายยุ้งข้าวที่สร้างด้วยไม้ไป ตนรู้สึกโกรธ เพราะมันเป็นมรดกที่พ่อแม่ของตนสร้างขึ้น จะมาขายมรดกของพ่อแม่ตนไม่ได้ ตนจึงถือมีดอีโต้มาฆ่านางมะลัย เพื่อระบายแค้น
นายอี๊ด วงษ์ป้อง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 14 บ้านหยวกใหม่ ต.บ้านหยวก อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจาก นางอ้อย ว่าแม่ถูกฆ่าตายในห้องน้ำ จึงมาตรวจสอบ พบนางมะลัย อายุ 78 ปี ถูกฟันด้วยของมีคมที่ใบหน้า และลำคอหวิดขาด และสงสัยฆาตกรคือนายลคร เพราะมีคนเห็นเดินถือมีดอีโต้มาที่บ้านก่อนแล้ว 1 รอบ ตำรวจจึงไปจับกุม ปมการฆ่ามาจากแค้นที่พ่อแม่ยกมรดกบ้านและที่ดินให้น้องชาย พอน้องชายเสียชีวิตก็ยกให้ลูกสาว นายลครไม่พอใจ อยากได้ที่ดินและบ้านที่เป็นมรดกของพ่อแม่คืน
น.ส.ปภัสสร อายุ 30 ปี หลานสาวผู้ตาย บอกว่า ผู้ตายเป็นยาย อาศัยอยู่กับตนและแม่ เช้าวันนี้ตนเดินมารดน้ำผักหน้าบ้าน พบนายลคร ซึ่งเป็นพี่ชายพ่อ และเป็นลุงของตน มีบ้านอยู่ห่างออกไป 100 เมตร เดินมาด้อมๆ มองๆ และไม่พูดอะไร พอพบตนก็เดินกลับไปบ้าน ตนได้ออกไปซื้อกับข้าวมาให้ยายกินประมาณ 10 นาที กลับมาไม่เห็นยาย จึงตามหาและพบยายถูกฆ่าตายในห้องน้ำ ซึ่งมีเด็กที่เล่นแถวบ้านเห็นนายลครเดินถือมีดออกจากบ้านไป
ส่วนปมการสังหารครั้งนี้คิดว่านายลครไม่พอใจที่พ่อของตนซึ่งเป็นน้องชายนายละครได้รับมรดกจากปู่และย่า เป็นบ้านและที่ดิน 1 ไร่ 36 ตารางวา เพราะพ่อตนเลี้ยงดูปู่กับย่า หลังปู่และย่าเสียชีวิต พ่อได้นำพ่อตาและแม่ยายมาดูแล เมื่อพ่อเสียชีวิตนายลครก็มาไล่พวกตนหนี จะเอาบ้านและที่ดินคืน แต่ก่อนพ่อเสียชีวิตได้โอนที่ดินให้ตนแล้ว นายละครคงจะแค้นว่าพวกตนไปแย่งมรดกทรัพย์สิน จึงแค้นจนมาฆ่ายายตาย ซึ่งเมื่อวานตนมีลางสังหรณ์ ขณะกำลังตัดไร่อ้อย เห็นอีกามาบินร้องไปมา ซึ่งโบราณถือว่าเป็นสิ่งไม่ดี แต่ไม่คิดว่ายายจะถูกฆ่า
นางอ้อย อายุ 48 ปี ลูกสาวนางมะลัย ผู้ตาย บอกว่า นายลครซึ่งเป็นพี่ชายสามี เครียดแค้นเรื่องพวกตนได้มรดกเป็นที่ดินและบ้าน เพราะนายลครอยากได้บ้าน หลังจากสามีตายนายลครก็มาพูดขู่ไล่พวกตนหนี ตนก็ไม่ยอมเพราะพ่อแม่ยกให้สามีแล้ว และก่อนตายก็ยกให้ลูกสาวแล้ว แต่ไม่คิดว่านายลครจะมาฆ่าแม่ของตน เพราะอยากได้บ้านและที่ดินกลับคืน
ส่วนนายอุทัย อายุ 66 ปี พี่ชายนายลครผู้ต้องหา บอกว่า มีพี่น้องทั้งหมด 8 คน ตนเป็นพี่คนโต น้องชายคนเล็กเลี้ยงพ่อแม่ จึงยกมรดกบ้านและที่ดินให้น้องชาย และแบ่งที่ดินให้นายลครสร้างบ้านอยู่ต่างหาก และยังแบ่งที่นาและไร่อ้อยให้คนละ 20 ไร่ ตนได้สั่งสอนนายลครไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวน้องชาย แต่นายละครไม่ยอมฟังชอบมาหาเรื่องและไล่น้องสะใภ้และหลานหนี อ้างว่าเป็นสมบัติของพ่อแม่ ดื่มเหล้าเมาก็จะมาพูดเรื่องนี้ตลอด กระทั่งมาก่อเหตุฆ่าแม่ยายน้องชายตาย ซึ่งตนรู้สึกเสียใจ ไม่สมควรที่จะมาทำเช่นนี้ จะไม่ประกันตัวและให้รับกรรมที่ตัวเองทำลงไป
ร.ต.อ.พีรยุท อุชชิน รอง สว.สอบสวน สภ.น้ำโสม เปิดเผยว่า นายลครผู้ต้องหา เป็นพ่อหม้าย แยกทางกับภรรยามาหลายสิบปี อาศัยอยู่ที่บ้านคนเดียวตามลำพัง และชอบดื่มเหล้าจนเป็นโรคแอลกอฮอล์ลิซึ่ม พอเมาได้ที่ก็จะเดินไปหาเรื่องกับครอบครัวน้องสะใภ้ เพราะไม่พอใจที่น้องชายได้รับมรดกที่ดินและบ้าน เมื่อน้องชายตายก็อยากได้มรดกคืน แต่น้องชายได้โอนให้ลูกสาวไปแล้ว และเมื่อมาเห็นหลานขายยุ้งข้าวที่เก่า ยิ่งเกิดไม่พอใจหนัก และได้ก่อเหตุฆ่านางมะลัย แม่ยายน้องชายตาย ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
