เด็กหญิง 2 คนวัย 8 ขวบ ถูกคนดูแลโต๊ะสนุกเกอร์ล่อลวงไปกระทำอนาจารเป็นเวลา 2-3 เดือนแล้ว
เมื่อวานนี้ (2 ก.พ.) เมื่อเวลา 12.33 น. ที่ สภ.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ผู้ปกครองเด็กหญิง อายุ 8 ขวบ จำนวน 2 ราย เดินทางมาพบ ร.ต.ท.หญิง ชนิกานต์ เสถียรไชยกิจ รองสารวัตรสอบสวน สภ.คูคต ว่าตนได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ชายคนหนึ่ง อายุ 59 ปี ได้หลอกพาเด็กหญิงทั้งสองคน ไปที่บ้านพักย่านลำลูกกา แล้วทำการข่มขืน และให้อมอวัยวะเพศ จำนวนหลายครั้ง โดยทำมาเป็นระยะเวลา 2-3 เดือน เหตุเกิดที่ห้องพักหลังโต๊ะสนุกเกอร์แห่งหนึ่งย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี
จากการสอบถาม แม่ของเด็กหญิง 1 ในสองคน กล่าวว่า น้องโดนกระทำ ถูกล่วงละเมิดหลอกให้เด็กเล่นโทรศัพท์ แล้วให้อมนกเขา 10 ครั้ง ถึงจะได้เล่นโทรศัพท์ใหม่ ซึ่งเด็กๆ ก็อยากได้แต่ก็กลัว เมื่ออมแล้วก็ไปอ้วก หลังจากที่ตนทราบเรื่องตนจึงไม่ยอม แต่ยอมรับเงินเพื่อให้เป็นหลักฐานเพื่อให้รู้ว่าเขากระทำลูกเราจริง ก่อนที่จะยอมรับว่าเขาทำ ตั้งแต่แรกก็ไม่เคยไว้ใจเขา แต่มีคนอยู่เยอะจึงไม่คิดว่าเขาจะทำ
ทั้งนี้ ตนได้นัดอีกฝ่ายหนึ่งที่ลูกสาวเขาก็โดนกระทำว่าจะเอายังไง ซึ่งหลังจากที่รู้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว ก็รู้สึกดีใจที่ตำรวจจับได้ อยากให้เขาไปตายในคุก แต่ก็ห่วงสุขภาพจิตใจลูกสาว และจริงๆ ไม่อยากให้เป็นข่าว เพราะกลัวลูกจะไปเจอตอนโต อยากให้ลืมสิ่งที่เกิดขึ้น
ซึ่งพฤติกรรมของผู้ต้องหานั้น จะหลอกเด็กในการเล่นโทรศัพท์โดยต้องมีข้อแลกเปลี่ยน หลอกให้เล่นเกมที่เขากำหนด ถ้าทำผิดหรือแพ้ ต้องถอด หรือ ต้องอมนกเขา แต่ถ้าชนะถึงจะได้ตามข้อแลกเปลี่ยน จนไปถึงการล่วงละเมิดทางเพศเด็กทั้งสองแต่อีกคนแค่ถูไถด้านนอก และส่วนใหญ่จะเป็นการบังคับให้อมนกเขาจนสำเร็จความใคร่
ในเวลาต่อมา พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 เดินทางมาที่ สภ.คูคต เพื่อติดตามรายละเอียดของคดี โดยมีการประชุมร่วมกับ พ.ต.อ.มนัสเวท ทองอิ่ม ผกก.สภ.คูคต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.คูคต กระทั่งนำตัวผู้ต้องหามาทำการสอบสวนที่ห้องประชุมชั้น 2 โดยใช้เวลาสอบสวนไม่นาน
พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 เปิดเผยว่า ก่อนอื่นทางเราต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ตามสิทธิเด็ก ซึ่งอันนี้สำคัญ เนื่องจากผู้เสียหายเป็นเด็กหญิงจำนวน 2 คน โดยหลังจากการสอบสวน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหา และขอหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ในข้อหากระทำชำเราแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี, พาเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร, พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การภาคเสธ แต่พนักงานสอบสวนกำลังสอบปากคำเพื่อหารายละเอียดในการเชื่อมโยงกัน ซึ่งผู้ต้องหาเป็นคนรู้จักกันมาก่อน โดยเด็กเรียกผู้ใหญ่ว่าปู่ อย่างไรก็ตาม การกระทำดังกล่าวไม่น่าเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม การดำเนินคดีในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะถือการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก อย่างดีที่สุด ซึ่งจากรายงานของชุดสืบสวนนั้น ขณะนี้เด็กอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ โดยมีการนำเด็กไปไว้กับเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลสภาพจิตใจของเด็กอย่างเหมาะสม
