“อัจฉริยะ” ร้องตำรวจไซเบอร์ เพื่อให้ดำเนินคดีกับ “หมอบุญ” กรณีดีลทิพย์สัญญาวัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโดส
วันนี้ (5 ส.ค.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ เพื่อให้ดำเนินคดีอาญากับนายแพทย์บุญ วนาสิน ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท. หรือ ตำรวจไซเบอร์) ในข้อหาใช้ข้อความอันเป็นเท็จในการหลอกลวงว่าสามารถเซ็นสัญญาซื้อวัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโดส ในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เผยแพร่เฟกนิวส์ โดยเล็งเห็นผลเพื่อให้หุ้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ นายอัจฉริยะ กล่าวว่า จากกรณีที่นายแพทย์บุญพูดมาโดยตลอดว่าสามารถติดต่อจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์มาเอง จำนวน 20 ล้านโดส ตั้งแต่วันที่ 14-16 ก.ค. นั้นเชื่อว่าไม่สามารถทำได้ ถือว่าเป็นการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จแก่ประชาชน และจัดว่าเป็นเฟกนิวส์
- หมอบุญ ตอบกรณีดีลวัคซีน mRNA “ถอดใจเรื่องนี้แล้ว เนื่องจาก ยากมาก”
นอกจากนี้ ตนยังเชื่อว่าการจัดซื้อระหว่างนายแพทย์บุญกับตัวแทนบริษัทไฟเซอร์นั้นไม่เคยเกิดขึ้น เนื่องจากการจัดซื้อวัคซีนจะต้องเป็นการซื้อผ่านหน่วยงานของรัฐและส่งมอบวัคซีนให้เฉพาะกับหน่วยงานของรัฐบาลกลางหรือองค์การระหว่างประเทศที่จัดทำโครงการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันระดับชาติเท่านั้น
ส่วนกรณีที่นายแพทย์บุญอ้างว่าได้มีการดีลการสั่งซื้อจากหน่วยงานของรัฐ ซึ่งต่อมากระทรวงกลาโหมได้ออกมาปฏิเสธถึงกรณีดังกล่าว โดยยืนยันว่าขณะนี้กระทรวงกลาโหมและหน่วยงานในสังกัดยังไม่มีแผน หรือความตกลงร่วมกับหน่วยงานภาคเอกชนใดๆ ในการสั่งซื้อหรือนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์ และที่ผ่านมากระทรวงกลาโหมก็ยังไม่เคยติดต่อกับบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด แต่อย่างใด
- กลาโหม โร่ปฏิเสธข่าวร่วมมือเอกชนนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์ ย้ำไม่เคยติดต่อตรงกับบริษัท
ทางด้าน พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมหางเทคโนโลยี กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจมีไทม์ไลน์ของการสั่งซื้อวัคซีนไฟเซอร์ของนายแพทย์บุญทั้งหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคำสัมภาษณ์ที่นายแพทย์บุญเคยให้ไว้กับสื่อ ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะรวบรวมไว้เป็นพยานหลักฐานทั้งหมด และต้องพิจารณาด้วยว่าเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กรณีที่ห้ามนำเสนอข้อมูลของโควิด-19 ที่สร้างความหวาดกลัวต่อสังคมหรือไม่
