เฮนรี่ แมคมาสเตอร์ ผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนา ลงนามร่างกฎหมายการทำแท้ง เมื่อวันพฤหัสบดี (18 ก.พ.) ที่ผ่านมา ระบุว่า หากตรวจพบชีพจรของตัวอ่อนในระหว่างตรวจอัลตราซาวด์ ห้ามทำแท้ง (ข้อยกเว้นในบางกรณี) ส่งผลให้เซาท์แคโรไลนากลายเป็นรัฐล่าสุดในสหรัฐที่ผ่านร่างกฎหมายที่เรียกว่า “ร่างกฎหมายชีพจรตัวอ่อน”
“วันนี้เป็นวันดี เป็นวันที่มีความสุข” แมคมาสเตอร์กล่าว พร้อมระบุว่า ในตอนนี้มีหวใจหลายดวงกำลังเต้นอย่างมีความสุข
ร่างกฎหมายดังกล่าวกำหนดให้แพทย์ต้องทำการตรวจอัลตราซาวด์ให้กับผู้หญิงที่ต้องการทำแท้งก่อน เพื่อดูว่าตัวอ่อนมีชีพจรหรือยัง หากพอสัญญาณของชีพจร แพทย์จะไม่สามารถดำเนินการทำแท้งได้ เว้นเสียแต่แพทย์จะระบุว่า เป็นเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ เป็นผลจากการถูกข่มขืน หรือตัวอ่อนมีความผิดปกติ ทั้งนี้ บุคคลที่ให้บริการทำแท้งโดยไม่อยู่ในข้อกำหนดอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
การออกกฎหมายใหม่ของเซาท์แคโรไลนาในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากศาลสูงของอเมริกา มีแนวโน้มที่จะเป็นไปทางฝั่งอนุรักษ์นิยมมากขึ้น หลังจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แต่งตั้งผู้พิพากษาคนใหม่ ซึ่งร่างกฎหมายชีพจรตัวอ่อนนี้อาจส่งผลกระทบกับกฎหมาย Roe v.Wade ปี 1973 ซึ่งศาลสูงได้ผ่านกฎหมายทำแแท้งทั่วประเทศ โดยผู้หญิงสามารถทำแท้งได้หากอายุครรภ์ไม่เกิน 24 สัปดาห์
ทั้งนี้ กลุ่มคณะทำงานเพื่อเรียกร้องสิทธิการทำแท้งได้ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายดังกล่าว และขอให้ผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางยับยั้งร่างกฎหมายดังกล่าว
