ภาพจาก AFP PHOTO / BRITISH HEALTH PROTECTION AGENCY
ล่าสุด (23 มกราคม 2563) สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า มีผลงานวิจัยใหม่ที่ตีพิมพ์ลงวารสาร Journal of Medical Virology ระบุว่า จากการที่นักวิจัยทำการวิเคราะห์ลำดับพันธุกรรมของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ มาเปรียบเทียบกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์อื่น ๆ ที่ถูกค้นพบมาแล้วก่อนหน้านี้ พบว่า 2019-nCoV ดูจะมีความสัมพันธ์กับตัวอย่างไวรัสโคโรนาในค้างค้าว และนั่นทำให้คาดได้ว่า เดิมทีไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้อาจมีที่มาจากค้างคาว
อย่างไรก็ตาม จากการวิจัยเพิ่มเติมพบว่า ไวรัสจากค้างคาวอาจมีการกลายพันธุ์ ก่อนจะติดต่อเข้าสู่มนุษย์ และจากการตรวจสอบพันธุกรรมของ 2019-nCoV มาเทียบกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์อื่น ๆ ซึ่งพบในสัตว์ที่เป็นโฮสต์ เช่น นก งู ค้างคาว เม่น และคน พบว่าพันธุกรรมของ 2019-nCoV มีความใกล้เคียงกับงูมากที่สุด
ทั้งนี้ งูเป็นสัตว์นักล่าที่มักจะกินค้างคาวในป่าเป็นอาหาร อีกทั้งภายในตลาด Wholesale Seafood Market ในอู่ฮั่น ซึ่งคาดว่าเป็นต้นตอการแพร่ระบาดของไวรัส ก็ยังมีการลักลอบขายสัตว์ป่าจำนวนมาก รวมถึงงูหลายชนิด ทำให้คาดว่าเชื้อไวรัสโคโรนา น่าจะส่งผ่านจากค้าวคาวมาสู่งู ก่อนที่จะส่งผ่านเชื้อจากงูเข้าสู่มนุษย์ จนเกิดการระบาดของโรคขึ้น
อย่างไรก็ตาม นักวิจัยยังไม่สามารถระบุได้ว่าเชื้อไวรัสสามารถปรับตัวให้เข้ากับโฮสต์ที่เป็นสัตว์เลือดเย็น และโฮสต์ที่เป็นสัตว์เลือดอุ่นได้อย่างไร
อนึ่ง ซีเอ็นเอ็น ระบุว่า สัตว์ที่อาจเป็นที่มาของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้ อาจเป็นงูจำพวก งูเห่าจีน (Chinese cobra) และ งูสามเหลี่ยมจีน (Chinese krait) งูพิษอันตราย ที่มีการวางจำหน่ายภายในตลาดของเมืองอู่ฮั่น โดยงูสายพันธุ์ดังกล่าวพบได้มากในตอนกลางและตอนใต้ของจีน รวมถึงประเทศอื่น ๆ ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งนี้ นักวิจัยยังคงต้องทำการวิเคราะห์และตรวจสอบเพิ่มเติม เพื่อยืนยันหาแหล่งกำเนิดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แต่อาจเป็นงานที่ยากขึ้น เมื่อในตอนนี้ตลาดที่น่าจะเป็นแหล่งแพร่เชื้อในตอนแรก ได้ถูกปิดและทำความสะอาดไปแล้ว